2555/04/23

อ่าวพังงา

เดินทางถ้ำพุงช้างถึงท่าเรืออ่าวพังงาประมาณบ่ายสองเกือบบ่ายสามเห็นจะได้  ที่ท่าเรือให้ข้อมูลว่าถ้าให้สวยให้มาช่วงเช้าหรือเที่ยง ราคาเรือที่นี้มาตรฐานครับจะเหมาเป็นหัวก็ได้ถ้าจำไม่ผิดคนละ 200 บาท         แต่ผมใช้วิธีเหมาลำไป ราคา 1,500 บาทรวมทุกอย่างแล้ว ยกเว้นการลงเขาตะปู ต้องคิดเงินเพิ่มเป็นรายหัว ( ราคาเหมาลำเดิมแจ้ง 1,600 บาท ) ราคานี้อาจจะเป็นเวลา ยกเว้นการลงเขาตะปู ต้องคิดเงินเพิ่มเป็นรายหัวใกล้เลิกงานแล้วก็ได้



ฝนเพิ่งหยุดได้ไม่นาน สังเกตกล้องยังมีละอองฝนติดอยู่เลย ( ทำไมฟื้นแห้งก็ไม่รู้ )






ถ้ำลอด



ขากลับ ภาพหมูบ้านบนเกาะบันหยี



กำลังซ้อมแข่งเรือ
ระหว่างทางพบชมชุนต่างๆกำลังซ้อมแข่งเรือกันครับคาดว่าจะมีเทศกาล แข่งเรือเร็วนี้

ภาพเขียนประวัติศาสตร์

หมู่บ้านบนเกาะปันหยี
เกาะปันหยี่ระยะไกล
เขาตะปูมุมระยะไกล

โรงแรมตรงท่าเรือใครจะพักตรงนี้ก็สะดวกดี

สรุปคืออ่าวพังงาสวยครับ คู่รักไหนจะไปฮันนีมูน( Honeymoon )กัน แนะนำให้เหมาเรือไปไม่ต้องรีบมาก วันที่ไปพบชาวต่างชาติมาฮันนีมูนกันเยอะเลยครับ

2555/04/14

ถ้ำพุงช้างที่สุดของถ้ำ/พังงา

ทางเข้า ด้านหลังคือเขาช้าง
ผมเคยเข้าไปในถ้ำพุงช้างเมื่อประมาณ10 กว่าปีที่แล้วครับ จำได้ว่าเหมือนเขาเปิดถ้ำใหม่ๆประมาณนี้ไปทำงานที่พังงาพอเลิกงานประมาณ 4 โมงเย็น ก็จ้างสองแถวไปส่ง ซึ่งไกด์เขาเลิกงานกันแล้ว ( ไกด์พม่า ) ผมจำได้ว่าจ้างเขา 200 บาทให้พาเข้าไปดู  เห็นภูเขาด้านหลังไหมเขาเรียกว่า เขาช้างเป็นภูเขาที่ใหญ่มากและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองพังงาด้วยถ้ำทะลุนี้ผ่านจากเขาฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งได้นะครับ
ลูกสาวถ่ายขณะรถวิ่งผ่าน

ผมใช้เวลาเดินจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ1,200เมตร ภายในถ้ำจากความทรงจำของผมดูอลังการ ช่วงที่ไปเป็นหน้าร้อน ทางเข้ามีน้ำผ่านนิดหน่อย แต่บางช่วงก็ต้องลุยน้ำเข้าไป บางช่วงถ้ำมีขนาดใหญ่มากๆรู้สึกเหมือนอยู่บ้านหลังใหญ่ๆ บางช่วงเล็กแคบจนอึดอัด บางช่วงแทบต้องคลานเข้่าไป สลับกันไปมาอย่างนี้ มีอยู่ช่วงหนึ่งไกด์ลองปิดไฟฉาย เลยทราบว่าสถาพไร้แสงเป็นอย่างไรแม้แต่มืออยู่ตรงขนตาเรายังไม่สามารถมองเห็นได้กลางคืนหรือกลางวันไม่มีความหมาย  อีกความรู้สึกหนึ่งคนเรากลัวความมืดจริงๆ  ยังคิดว่าถ้าเข้าไปแล้วแบตเตอร์รี่หมดไฟดับคงต้องตายในนั้นแต่นอน เพราะสถาพถ้ำกว้างและลึกมาก อีกทั้งมีทางแยกเล็กแยกน้อยอีกมากไม่มีทางออกมาได้   บางจุดไกด์บอกผมว่าห้ามพานักท่องเที่่ยวเข้าและห้ามถ่ายรูปครับ ( ต้องปีน ) แต่วันนั้นคงเป็นวันพิเศษเพราะไกด์เลิกงานแล้วจึงถือว่ามิได้อยู่ในหน้าที่ ความสวยงามติดตาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อไกด์ดับไฟอีกครั้งเราจะพบ แสงคล้ายจักรวาลดาวระยิบระยับเต็มไปหมด หรืออาจจิตนาการคล้ายแสงเพชรก็ได้แต่ปริมาณเยอะเทียบกับจักรวาล     ส่วนตัวผมคิดว่าถ้ำเป็นการผจญภัยและการค้นหาและถ้ำพุงช้างผมยกให้เป็นอันดับหนึ่งจากถ้ำที่ผมเคยไปมาทั้งหมด  คิดไว้ว่าวันหนึ่งต้องกลับมาอีกให้ได้

บริเวณปากถ้ำ
วันนี้ได้กลับมาแล้ว ดูหน้าถ้ำก็มีการเปลี่ยนแปลงมีการบริหารจัดการให้เป็นที่ท่องเที่ยวและมีความปลอดภัยมากขึ้น สมัยก่อนไม่มีอะไรมีแต่ถ้ำจริงๆ   ด้านหน้ามีไกด์ ( เป็นพม่าพูดไทยได้เหมือนเดิม ) ค่าเข้า 200บาท เหมือนเดิมแต่เดี๋ยวนี้เขาให้เข้าได้แค่ 800 เมตรไม่ทะลุออกอีกด้านใช้เดินเวลาประมาณ 1-1 ชั่วโมงครึ่ง จากด้านที่ผมมองเข้าไปเห็นเรือแคนูรออยู่สมัยก่อนก็ไม่มีครับมีแต่แพ      วันนี้ผมมีสมาชิกมาด้วยหลายคน เนื่องจากเวลาจำกัดส่วนใหญ่อยากไปเขาตะปูมากกว่าเลยใช้เสียงส่วนใหญ่ ผมเลยไม่ได้เข้าไปข้างในถ้ำในวันนี้เสียดายมาก
ด้านหน้า

ลูกสาวถ่ายให้ครับ
ใครไปเที่ยวพังงาเชิญเลยเลยนะครับแนะนำให้ไป สถานที่ปลอดภัยที่สำคัญอยู่ในตัวเมืองพังงา  เลี้ยวเข้ามาทางวัดประพาสประจิมเขต ( ตามรูปด้านบนสุด ) ตรงเข้ามาเรื่อยๆ สัก 500 เมตรเห็นจะได้  ฝั่งตรงข้ามวัดประพาสประจิมเขตเป็นศูนย์การท่องเที่ยวของจังหวัดพังงาแวะไปขอข้อมูลก่อนก็ได้ครับ
ไม่ทราบว่าภายในถ้ำการท่องเที่ยวได้เข้าไปสำรวจทำแผนที่หมดหรือยัง อยากจะขอเก็บไว้ศึกษาสักชุดครับ ( เป็นที่ระลึกนะครับคงไม่เข้าไปเอง )        ส่วนอีกฝั่งหนึ่งทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินทะลุเหมือนเมื่อก่อนถามมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ

2555/04/13

ท่าเรือบางเบน/ระนอง

ก่อนเข้าอุทยานแหลมสน ( หาดบางเบน ) มีทางแยกด้านซ้ายมือขับรถเข้าไปนิดหน่อยจะถึง  ท่าเรือบางเบน  ก็เป็นหาดที่ต่อจากบางเบนเป็นหาดที่เดินถึงกันได้ หาดตอนน้ำลดดูสวยและสงบดี ผมออกมาช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกพอดีครับ คนระนองเองบางทีก็ไม่ทราบครับว่ามีท่าเรือนี้ ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ไปเลยแล้วกัน 




น้ำเริ่มขึ้นแล้ว




2555/04/12

หาดบางเบน/ระนอง

หาดบางเบนชื่อนี้คุ้น ชาวระนองครับเป็นหาดที่ครอบครัวผมไปบ่อยที่สุดด้วย ชื่อเป็นทางการคือ อุทยานแห่งชาติแหลมสน ตั้งอยู่ที่ อ.กระเปอร์ อยู่ห่างจาก อ.เมืองประมาณ 45 ก.ม โดยขับรถไปทาง ถ.สาย ระนอง-พังงา  ทางเข้าหาดมีป้ายบอกชัดเจน อยู่ด้านขวามือเข้าไปอีก 10 ก.ม เดี๋ยวนี้เข้าไปเขาลาดยางหมดแล้วครับ  ระหว่างทางจากระนองไปหาดบางเบนก็ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น น้ำพุร้อนบ้านพรรั้ง ,  เขาหัวล้าน ( หรือภูเขาหญ้า ) ,น้ำตกหงาว




ช่วงที่ไปถึงน้ำขึ้นพอดี เสียดายมากเพราะผมชอบตอนน้ำลดมากกว่า จากรูปด้านบนถ้าน้ำลดเราจะเดินไปไกลมากคาดว่าจะเกือบกิโลได้   สมัยก่อนผมชอบเดินเก็บหอย,ปลาดาว วันที่ไปก็มีฝนตกลงมาทำให้หาดไม่ค่อยสวยเท่าไร แต่เล่นน้ำสนุกมากเลย



ด้านหลังเป็นทิวสนต้นใหญ่ๆทั้งนั้น เสียดายไม่ได้เข้าไปถ่ายเพราะไปหลัง 4 โมงเย็นแล้ว( ข้อดีคือไม่เสียค่าเข้า )  ทางอุทยานให้ออกก่อน 6 โมงเย็นเลยต้องรีบพาลูกเล่นน้ำ ที่หาดบางเบนเดี๋ยวนี้พัฒนาแล้วนะมีห้องอาบน้ำใหญ่ๆแยกห้องชายหญิง มีโอกาสปีหน้าจะลองหาที่ภาพสวยๆมาฝากครับ

2555/04/07

คุณเป๋าดอนหอยหลอด

ป้ายโปสเตอร์

วันนี้ผมเดินทาง กรุงเทพ-ระนองเพื่อพาครอบครัวไปเช็งเม้ง  ออกจากกรุงเทพ ประมาณ 8 โมงกว่าๆ ขับรถออกทาง พระราม 2 ต้องผ่านทาง จ.สมุทรสงคราม   ประมาณ 10 โมงก็ถึงร้าน เลยแวะ ดอนหอยหลอดเพื่อหาหอยหลอดจากแหล่งขึ้นชื่อลองทานดู ก็ไม่ไกลจากกรุงเทพนะครับ ขับมาเที่ยวและทานข้าว บ่ายๆกลับกรุง ยังทันเลย   ระหว่างทางเข้าจากถนนใหญ่ถึงดอนหอยหลอดยังมีธรรมชาติที่สวยงาม เป็นป่าชายเลนยังมีนกต่างๆหาปูหาปลาตามธรรมชาติอยู่เลย  ภาพรถไฟด้านบนเป็นของร้านคุณเป๋าเตรียมไว้ให้นักถ่ายครับ   


เข้ามาที่ร้านคุณเป๋าเป็นลูกค้ารายแรกสำหรับวันนี้ครับ เด็กกำลังจัดโต๊ะอยู่เลยถือว่าโชคดีครับ เพราะดูตามโต๊ะเขียนว่าจองแล้วหลายโต๊ะเลย สักครู่ก็มีแม่ค้ามาขายลิ้นจี่ ถุงละ 120 บาทเลยเอาซักสองถุง



เพิ่งทราบนะครับ แฝดสยาม (Siamese twins)    อิน-จัน  เกิดแถบแม่กลองด้วย นี่แหละครับบ้างทีไปเที่ยวก็ได้ความรู้กลับมาด้วย
สิ่งที่ผมชอบมากคือ ทางร้านมิได้เป็นแค่ร้านอาหารครับยังมีข้างของเครื่องใช้และวัฒนธรรมท้องถิ่นแฝงเข้ามาด้วย อยากให้ร้านท้องถิ่นต่างจังหวัดจัดอย่างนี้เยอะๆนะครับ เป็นการอนุรักษ์ไปด้วย



บ้านผมเรียก ลูกไข่

วิทยุต้องธานินทร์
 ไม่มีรูปอาหารให้ดูนะครับ ทานเสร็จรีบเดินทางต่อ  ..แต่ราคาค่อนข้างแพงไปนิด......ใครสนใจก็ตามแผนที่ด้านบนนะครับ